‘ค่าเงินบาท’แตะ 33.78 บาท เปิดแข็งค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือน

น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ 5 ม.ค.66 แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.78 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.85 บาทตอดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นตามจังหวะสัญญาณที่สะท้อนว่าเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทย ประกอบกับเงินดอลลาร์ ยังคงขาดแรงหนุนให้ฟื้นตัว หลังจากที่รายงานการประชุมเฟดเมื่อเดือนธ.ค. (เปิดเผยออกมาเมื่อคืน) สะท้อนว่า กรรมการเฟดมีความเห็นว่า เฟดจะยังจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่จะเป็นลักษณะทยอยปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ตลาดน่าจะรอติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ของสหรัฐ ในคืนนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 33.70-33.95 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์เงินทุนต่างชาติ สถานการณ์เงินหยวนและค่าเงินในภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือน ธ.ค.ของจีน รวมถึงตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และดัชนี PMI ภาคบริการเดือน ธ.ค. ของสหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ตลาดการเงินสหรัฐ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) หนุนโดยรายงานการประชุมล่าสุดของเฟดที่บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ แต่จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราชะลอลง เพื่อลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ซึ่งมุมมองดังกล่าวของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดไม่ได้ต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปบ้าง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth สามารถรีบาวด์ขึ้น และทำให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.69% ส่วน ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.75%

ส่วนในทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้นราว +1.38% หนุนโดยรายงานดัชนี PMI ของยูโรโซนที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจไม่ได้รุนแรงมากนัก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม (Dior +4.5%, Hermes +4.2%) ตามความหวังการทยอยเปิดเมืองของจีน

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังรายงานการประชุมล่าสุดของเฟด ชี้ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อเศรษฐกิจ โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวลดลงใกล้ระดับ 104.2 จุด ทั้งนี้ การอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ.) สามารถแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะถูกกดดันจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน ซึ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเดินหน้าทยอยขายทำกำไรทองคำต่อเนื่อง (ราคาทองคำแตะจุดสูงสุดราว 1,869 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อย) ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ อาทิ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) รวมถึง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง (Continuing Jobless Claims) ส่วนในฝั่งไทย เราประเมินว่า การบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือนธันวาคม เร่งขึ้นสู่ระดับ 5.9% (ส่วนหนึ่งมาจากผลของฐานราคาที่ต่ำในปี 2021) แต่อัตราเงินเฟ้อจะไม่ปรับตัวขึ้นไปมาก เนื่องจากราคาสินค้าพลังงานได้ปรับตัวลดลงในช่วงเดือนธันวาคม

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า การแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของเงินบาทนั้น ได้แรงหนุนหลักมาจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ไทย อาทิ บอนด์ระยะสั้น ที่มียอดซื้อสุทธิโดยนักลงทุนต่างชาติกว่า 16.5 หมื่นล้านบาท ในวันก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นการเพิ่มสถานะ Short USDTHB (มองเงินบาทแข็งค่า) ของนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความหวังการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ตามการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนคำพูดจาก สล็อต666

ทั้งนี้ มองว่า เงินบาทยังพอได้แรงหนุนในฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง หากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวยังไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่ต้องระวังในกรณีที่เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ ในวันนี้ รวมถึงวันศุกร์ (รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม หรือ Nonfarm Payrolls) ออกมาดีกว่าคาดไปมาก นอกจากนี้ ประเมินว่า ผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB ได้บ้าง หลังเงินบาทเริ่มปรับตัวแข็งค่าใกล้โซนแนวรับสำคัญใหม่ แถว 33.75-33.80 บาทต่อดอลลาร์